ลิงค์ข้างบนเป็นรีวิวจากไทยรัฐ ครับ ข้อความดังนี้
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/review/1644900
แผนที่ https://www.google.com/maps/place/14°21’20.1%22N+100°34’50.5%22E/@14.3561115,100.5780342,17z/data=!4m5!3m4!1s0x0:0x0!8m2!3d14.355571!4d100.580695
วันก่อนไปกรุงเก่าอยุธยา…เที่ยววิถีชุมชนซึ่งมีอยู่หลายสิบแห่ง เช่น ชุมชนจักสานพัดบ้าน-สำพะเนียง ชุมชนต้นสะตือตำนานขนมท้าวทองกีบม้า ชุมชนบ้านเกาะเกิดริมเจ้าพระยา ชุมชนคลองจิกถิ่นเห็ด 5 สี แล้วไปกินข้าวปิ่นโตบ้านสามเรือน…ทุกชุมชนมีเสน่ห์น่าเที่ยว จากนั้น… “คุณชาย 1” ไปเยือนเมืองโบราณมรดกโลก มีสายน้ำป่าสักกับแม่น้ำลพบุรีและลำน้ำเจ้าพระยา กลางเมืองยังเห็น “รถสามล้อหัวกบ” แล่นรับโดยสารเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ กับอีกแห่งที่ จ.ตรัง บ้านเกิดนายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนล่าสุด ระหว่างตระเวนเมืองได้เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านโรตีสายไหมกระจายอยู่ทั่ว พอเลียบลำน้ำป่าสักบน ถ.อู่ทอง ลอดใต้สะพานปรีดี-ธำรงไปเกือบ 1 กม. ก่อนถึงตลาดเจ้าพรหม 500 ม. และตลาดหัวรอไม่ไกลออกไป คุณชายถึงเจอ “ร้านท่าหลวง” ตั้งอยู่ทางขวามือติดธนาคารธนชาต สาขาตลาดเจ้าพรหม ดีไซน์เป็นร้านเรือนไม้สีดำขรึมตามเทรนด์ร่วมสมัยไทยแลนด์ 4.0 เปี๊ยบ จึงไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเข้าไปทันที พบว่าในร้านถูกตกแต่งด้วยภาพถ่ายคล้ายแกลเลอรีริมน้ำฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟอยุธยา ชวนให้ย้อนอดีตสมัยเรือแดง 2 ชั้นแล่นขึ้นล่องตลาดหัวรอ-ปากคลองตลาดผ่านลำน้ำสายนี้ คุณชายทวนความหลังนานไปนิด…จนพบ “นัตตี้” นิธิ สืบพงษ์สังข์ กับ “ตุ้ม” ณัฐภัค เสถียรรุจิกานนท์ นักลงทุนกลุ่มสตาร์ตอัพ ถึงรู้ว่าร้านนี้เพิ่งเปิดได้ 2 ปีกว่า โดยมีธุรกิจทัวร์อินบาวด์ขายคนต่างชาติมาเที่ยวไทยและอยุธยาอีกจ๊อบหนึ่งอยู่ด้วย ชื่อ นัตตี้’ส แอดเวนเจอร์ เอเย่นต์ทัวร์นี้เปิดมานานแล้ว โดยเน้นขายผู้พิการสายตาซึ่งไม่ง่ายนัก เพราะละเอียดอ่อนกว่าการบริการคนร่างกายปกติ และอาศัยชอบทำอาหารเลี้ยงลูกทัวร์อยู่แล้ว จึงคิดเปิดร้านครัวไทยฟิวชันขายคนรุ่นใหม่ ทั้งไทยและต่างชาติได้ฟินกับมื้ออาหารกลางบรรยากาศชิลล์ๆริมน้ำ เอาล่ะคราวนี้มาดูเมนูแรกที่คุณชายเลือกชิมเป็น “ต้มผู้กอง” สไตล์ท้องถิ่น อ.เสนา กับ จ.สุพรรณบุรี รสชาติสัมผัสไม่ต่างต้มยำน้ำถึงพริกถึงน้ำปลา น้ำตาลและมะนาว มีหมูบะช่อ ผักกาดดองผสม คุณชายซดน้ำอีก 2-3 ช้อน ลิ้นจึงเริ่มรับรู้ความเข้มข้นจากเครื่องปรุงมากขึ้น ซึ่งปกติก็มีมากพออยู่แล้ว แต่ครั้นได้น้ำจากเนื้อหมูมาช่วยเพิ่มความหวานกลมขึ้นไปอีก โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรุงแต่งรสใดๆเลย แถมยังได้รสเปรี้ยวอมเค็มจากผักกาดดองอีกต่างหาก “เมนูนี้มีทหารยศร้อยเอกคนหนึ่ง มาทุกครั้งต้องสั่งต้มยำรสจัดเต็มๆแบบนี้ เลยถูกนำมาใช้เป็นเมนูสูตรต้มผู้กองให้ดูแปลกชวนกิน” จบเมนูแรกเมนูที่สองก็ตามมาติดๆด้วย “กุ้งคั่วพริกเกลือ” จานนี้สีสันเตะตาน่าชิมเลยแหละ นัตตี้เผยเป็นสูตรเด็ดที่ได้มาจากกุ๊กจีน โดยใช้กุ้งแชบ๊วยขนาด 15 ตัวโลมาทอดทั้งเปลือก ให้กรอบนอกนุ่มใน อันนี้เป็นวิธีกินกุ้งคนกรุงเก่ารุ่นก่อนๆ ทำเอาไว้ จากนั้นจึงตักมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ต่อด้วยทอดกระเทียม พริก ต้นหอมสดคั่วให้สุก แล้วเหยาะเกลือเล็กน้อยก่อนเอากุ้งลงไปคลุก จนหอมถึงตักใส่จานโรยหน้าด้วยผักเครื่องปรุง แต่งด้วยผักสดเครื่องเคียงจำพวกผักกาดหอม กะหล่ำซอยและมะเขือเทศฝานเป็นชิ้นๆ คุณชายยอมเสียมารยาทชิงตักกุ้งใส่จานขณะยังร้อน กินโดยไม่ต้องแกะเปลือกตามคำแนะนำ จานนี้รับว่า…ใช่เลย… เค็มพอดีที่ใช้เกลือปรุงนำ แต่ไม่รุนแรงให้ไตต้องทำงานหนัก หากกินพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แหม…มันอร่อยอย่าบอกใครเชียว อาหารเด่นอีกจานเป็น “หมูย่างกระเทียมโทน” ที่ใครมามักสั่ง ด้วยเนื้อหมูที่คัดมาใช้จัดอยู่ชั้นเกรดเอ เคล็ดลับหมักหมูกับพริกไทย รากผักชี กระเทียม เกลือ น้ำปลาเล็กน้อย ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงถึงเอามาห่อใบตองย่างบนเตาถ่านแบบบ้านๆ ให้เนื้อหมูอมกลิ่นใบตองกับควันไฟ “ถ้าเป็นคนไทยจะชอบย่างจนสุก แต่ต่างชาตินิยมสุกแต่ภายนอกส่วนเนื้อในทิ้งให้แดงปนเลือดแบบมีเดียม หรือมีเดียม แรร์” นัตตี้ว่าอย่างนั้น หมูย่างกึ่งสุกกึ่งดิบเสิร์ฟคู่มะเขือเทศรองใบชะพลู กระเทียมโทน ผักต้มแอสพารากัส ข้าวโพดอ่อน แครอท มีน้ำจิ้มแจ่วน้ำปลาผสมมะนาว น้ำตาล พริกคั่ว งาคั่ว และหอมซอย หน้าตาไม่ต่างสเต๊ก ต่างอยู่บ้างตรงใช้แจ่วเป็นฟิวชัน ลูกค้าจึงเรียก “สเต๊กหมูจิ้มแจ่ว” ซะเลย สามจานผ่านมานัตตี้ย้ำว่านั่นเป็นแค่สตาร์ตเตอร์ส่วนเมนคอร์สกำลังตามมาเป็น “ปลาช่อนผัดนกพิราบ” เอาละสิ! คุณชายอดคิดไม่ได้ว่า คงเป็นปลาช่อนผัดรวมนกพิราบ แต่พออาหารขึ้นโต๊ะ ศิริพร เกตุโชติ “นุ่น” ผู้จัดการร้านและหัวหน้ากุ๊กวัย 27 ปี ดีกรี ป.ตรี บริหารธุรกิจ เผยว่า เมนูนี้พัฒนามาจากอาหารเจชุดเต้าหู้ผัดผักกาดดอง แต่ถูกดัดแปลงเป็นใช้เนื้อสัตว์แทนเต้าหู้ “ถ้าเป็นปลาช่อนนาเนื้อจะนิ่มคล้ายเต้าหู้อมน้ำซอสได้ดี เครื่องปรุงใช้พริกเหลือง กระเทียมตำใส่เกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชูเคี่ยวให้เหนียว ก่อนใส่ผักกาดดองผัดให้เปรี้ยวนำหวาน” คุณชายถึงหายสงสัย ปลาช่อนผัดนก…ที่แท้เป็นผักกาดดองตรานกพิราบนี่เอง? อีกเมนูนุ่นนำเสนอมาคู่กัน ชื่อ “น้ำพริกโจร” ต้นกำเนิดอยู่กลางทะเลอันดามันภูเก็ต พังงา กระบี่ เล่ากันว่า…เป็นอาหารจานบังคับโจรสลัดก่อนลงมือปล้น โดยใช้กุ้งทะเลลวกให้สุกนิดหน่อย แล้วตำเนื้อฉีกเป็นชิ้นๆก่อนใช้น้ำลวกกุ้งเทรวมลงในน้ำพริกกะปิที่เตรียมมา คนให้เข้ากันแล้วซอยหอมแดงกับพริกขี้หนูโรยหน้าตามลงไป คนปักษ์ใต้บางถิ่นเรียก “น้ำพริกขยำ” เพราะชอบขยำกุ้งด้วยมือแทนใช้ครก และต้องมีผักเครื่องเคียง เช่น ผักบุ้งน้ำ มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วฝักยาว ยอดกระถิน สะตอ ลูกเนียง ส่วนคนภาคกลางจะเรียก “น้ำพริกกุ้งสด” และนิยมซอยมะม่วงดิบผสม คุณชายฟังแล้วซี้ดปากอยากเปิบอาหารทั้ง 2 เมนู กับข้าวสวยร้อนๆให้สะใจ ขอบอก…ร้านนี้พิถีพิถันคัดเลือกพันธุ์ข้าว ถ้าไม่ได้กุหลาบแดงบางปะอิน ก็ต้องข้าวหอมนครชัยศรี หรือหอมมะลิกู่กาสังข์ทุ่งกุลาฯ และสังข์หยดเมืองลุง (พัทลุง)…ชิมแล้วยอมรับว่าอร่อยทั้งปลาช่อนผัดนกพิราบ-น้ำพริกโจร และข้าวที่นำมาให้เปิบ อยากลิ้มลองให้เพลินลิ้นรีบไปกันเลย “ร้านท่าหลวง” อยู่ริมน้ำป่าสัก ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนไชย อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ติดธนาคารธนชาต สาขาตลาดเจ้าพรหม เปิด 11.00-22.00 น.ทุกวัน โทร.09-6883-7109.
คุณชาย 1
Reviews
There are no reviews yet.